Categories
ข่าว

เตือน! พายุฤดูร้อนกำลังมา อีสานโดนถล่มก่อน ฝนฟ้าคะนอง ลมแรง ลูกเห็บตก 8 – 10 เม.ย.

ในช่วงวันที่ 4 – 7 เม.ย. 67 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ในช่วงวันที่ 6 – 7 เม.ย. 67 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ส่วนลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 10 เม.ย. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในระยะแรก โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน ตลอดช่วง สำหรับในช่วงวันที่ 8 – 10 เม.ย. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 4 – 10 เมษายน พ.ศ. 2567
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 4 – 7 เม.ย. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาคในช่วงวันที่ 6 – 7 เม.ย. 67
อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 – 44 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 10 เม.ย. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 4 – 7 เม.ย. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในช่วงวันที่ 6 – 7 เม.ย. 67
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 – 43 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 10 เม.ย. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.

ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 4 – 8 เม.ย. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 6 – 8 เม.ย.67
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 – 43 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 10 เม.ย. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 4 – 7 เม.ย. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 41 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 8 – 10 เม.ย. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 39 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 4 – 9 เม.ย. 67 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 10 เม.ย. 67 ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 39 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 4 – 7 เม.ย. 67 ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 8 – 10 เม.ย. 67 ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 4 – 8 เม.ย. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในช่วงวันที่ 6 – 8 เม.ย. 67
อุณหภูมิต่ำสุด 27 – 30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 9 – 10 เม.ย. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.