Categories
ข่าว

พร้อมยัง!! “เกณฑ์ทหารมหาสารคาม 2567” เช็กวัน รายละเอียด

กองทัพบก เตรียมทำการตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2567 ระหว่าง วันที่ 1 – 12 เมษายน 2567 เว้นวันที่ 6 เมษายน (วันจักรี) ตรวจสอบรายละเอียด กำหนดการ และขั้นตอนการตรวจเลือก ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง รวมถึงคุณสมบัติ และเงื่อนไข บุคคลที่ได้รับการยกเว้น โดย จ.มหาสารคาม มีกำหนดการรายละเอียดดังนี้

ผู้ที่อยู่ในเกณฑ์การตรวจเลือก ระหว่างวันที่ 1 -12 เม.ย.67
ชายไทย เกิดปี พ.ศ.2546 มีอายุ 21 ปีบริบูรณ์
ชายไทย เกิดปี พ.ศ. 2538 – 2545 มีอายุ 22 – 29 ปีบริบูรณ์ ที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือกฯ หรือผลการตรวจเลือกฯ ยังไม่แล้วเสร็จทุกกรณี
นิสิต นักศึกษา นักเรียน ที่อยู่ระหว่างการศึกษา จะได้รับการผ่อนผันตามกฎกระทรวง
บุคคลข้างต้น ต้องไปรับหมายเรียกฯ (แบบ สด.35) จากเจ้าหน้าที่สัสดี ณ สำนักงานเขต หรือที่ว่าอำเภอซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตนและไปเข้ารับการตรวจเลือก ตามวันเวลา และสถานที่ ที่กำหนดไว้ในหมายเรียกฯ
หากไม่ไปรับหมายเรียก ภายในกำหนดต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 300 บาท
หากรับหมายเรียกแล้วไม่ไปเข้ารับการตรวจเลือก ถือว่าผู้นั้นหลีกเสี่ยงหรือขัดขืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี

วันตรวจเลือก – สิ่งที่ต้องเตรียมไป
ในวันตรวจเลือก เตรียมหลักฐานอะไรไปแสดงต่อคณะกรรมการบ้าง

ใบสำคัญทหารกองเกิน (แบบ สด.9)
หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.35)
บัตรประจำตัวประชาชน
ใบสำคัญความเห็นแพทย์และประวัติการรักษา (ถ้ามี)
ประกาศนียบัตร หรือหลักฐานแสดงคุณวุฒิทางการศึกษา หรือใบรับรองวิทยฐานะของผู้สำเร็จการฝึกวิชาทหารตามกฎหมาย

เช็กคุณสมบัติ บุคคลซึ่งจะเข้ารับราชการทหารกองประจำการนั้น ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

มีขนาดรอบตัว ตั้งแต่ 76 เซนติเมตรขึ้นไป (ในเวลาหายใจออก)
มีขนาดความสูง ตั้งแต่ 160 เซนติเมตรขึ้นไป
ถ้าขนาดสูงหรือขนาดรอบตัวอย่างใดอย่างหนึ่งต่ำกว่ากำหนดนี้ ให้ถือว่าเป็นคนที่ไม่ได้ขนาดจะส่งเข้ากองประจำการไม่ได้ (ทั้งนี้ ความสูงตั้งแต่ 146 ซม.ขึ้นไป แต่จะคัดเลือกคนที่มีขนาดสูงตั้งแต่ 160 ซม.ขึ้นไปก่อน)
ทหารกองเกิน ซึ่งอยู่ในกำหนดเรียกเข้ารับการตรวจเลือกฯ ในเดือน เม.ย.2567 ผู้ใดที่เห็นว่าตนเองมีโรคหรือสภาพร่างกาย หรือสภาพจิตใจที่ไม่สามารถรับราชการทหารได้

ให้ไปขอรับการตรวจโรคก่อนการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการ ทหารกองประจำการ ประจำปี 2567 ได้ที่โรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ 26 แห่งทั่วประเทศ (โรงพยาบาลใดก็ได้) ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 25 ก.พ.2567

หากพ้นห้วงเวลาที่กำหนด จะดำเนินการตรวจโรคก่อนการตรวจเลือกฯ ให้ไม่ได้ แต่ทหารกองเกินสามารถนำผลการตรวจโรคของแพทย์จากโรงพยาบาลทหารหรือโรงพยาบาลของรัฐไปแสดงต่อคณะกรรมการตรวจเลือกฯ ในวันตรวจเลือกฯ เพื่อประกอบการวินิจฉัยได้

ขั้นตอนการตรวจเลือก
ในวันตรวจเลือกทหารกองเกิน (วันเกณฑ์ทหาร) เวลา 07.00 น. ทหารกองเกินที่ได้รับหมายเรียก (แบบ สด.35) แล้ว ทุกคนเข้าแถวตามแขวง/ตำบล เพื่อเตรียมเคารพรงชาติ ประธานกรรมการตรวจเลือกทหาร ชี้แจงความจำเป็นถึงการตรวจเลือกทหาร เมื่อประธานกรรมการชี้แจงเสร็จ กรรมการสัสดีจะชี้แจงถึงขั้นตอนการปฏิบัติในการตรวจเลือกทหาร รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของผู้ถูกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ คือ ผู้ที่สมัครหรือผู้ที่จับสลากแดงได้ ซึ่งมีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้

โต๊ะที่ 1 เรียกชื่อ ตรวจสอบหลักฐานบุคคล

กรรมการจะเรียกชื่อทหารกองเกินเข้ารับการตรวจเลือก
โต๊ะที่ 2 ตรวจร่างกาย

แพทย์จะตรวจร่างกายว่าสมบูรณ์ดีหรือไม่ กรรมการสัสดีกำหนดคนเป็น 4
– จำพวกที่ 1 คนร่างกายสมบูรณ์ดี

– จำพวกที่ 2 คนที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ดีเหมือนคนจำพวกที่ 1 แต่ไม่ถึงกับทุพพลภาพ

– จำพวกที่ 3 คนที่ได้รับอุบัติเหตุหรือมีโรครักษาให้หายไม่ได้ภายใน 30 วัน

– จำพวกที่ 4 คนที่ร่างกายพิการทุพพลภาพ หรือมีโรคที่กคุณสฎหมายกำหนดให้ไม่ต้องเข้ารับราชการทหาร

*** สำหรับบุคคล จำพวกที่ 2 3 4 รอการเรียกจากโต๊ะประธานกรรมการเพื่อตรวจสอบบุคคลและรับใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ แบบ สด.43 จากนั้นเสร็จสิ้นขั้นตอน

โต๊ะที่ 3 วัดขนาด

กรรมการจะวัดขนาดสูงและขนาดรอบตัวของร่างกาย
ตรวจสอบขั้นสุดท้าย
หากร่างกายสมบูรณ์ดีและขนาดสูง 160 เซนติเมตร ขนาดรอบตัว 76 เซนติเมตร ในเวลาหายใจออกเรียกว่า คนได้ขนาด และจะให้รอจับสลาก
เมื่อมีคนได้ขนาดพอกับยอดจำนวนที่ต้องการคนเข้ากองประจำการ ทหารกองเกินที่มี ขนาดสูงต่ำกว่า 1 เมตร 60 เซนติเมตร ขนาดรอบตัวต่ำกว่า 76 เซนติเมตร ในเวลาหายใจออก และคนจำพวกที่ 2,3,4 ซึ่งร่างกายไม่สมบูรณ์ดีหรือร่างกายพิการทุพพลภาพหรือมีโรคที่ขัดต่อการเป็นทหารกองประจำการ ประธานกรรมการจะปล่อยตัวพร้อมกับมอบไบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.43) ให้ทหารกองเกินรับไป
บุคคลที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเข้ารับเกณฑ์คัดเลือกด้วย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

1.ยกเว้นไม่ต้องเข้ารับราชการกองประจำการ (ยกเว้นให้ตลอดไป) แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

1.1 พระภิกษุที่มีสมณศักดิ์ หรือที่เป็นเปรียญ และนักบวชในพระพุทธศาสนาแห่งนิกายจีน หรือญวน ที่มีสมณศักดิ์ โดยพระภิกษุที่มีสมณศักดิ์ หมายถึง ยศของพระ เช่น เป็นพระครู พระชั้นเทพหรือชั้นธรรม เป็นต้น

ส่วนตำแหน่งของพระ เช่น เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ อย่างนี้เป็นตำแหน่ง ไม่ใช่สมณศักดิ์ จึงไม่ได้รับการยกเว้น พระภิกษุที่มีสมณศักดิ์ อาจไม่มีตำแหน่งก็ได้

พระภิกษุที่เป็นเปรียญ หมายถึง การศึกษาของพระ เช่น เป็นเปรียญตั้งแต่ 3 ประโยค ถึง 9 ประโยค

นักบวชในพระพุทธศาสนาแห่งนิกายจีน หรือญวน ที่มีสมณศักดิ์นั้น หมายถึง ผู้ที่บวชในพระพุทธศาสนาเหมือนกัน ต่างกันที่ถือตามนิกายของจีนกับของญวน นักบวชในพระพุทธศาสนาแห่งนิกายจีนหรือญวน ต้องมีสมณศักดิ์ด้วย จึงจะได้รับการยกเว้น

1.2 คนพิการทุพพลภาพซึ่งไม่สามารถเป็นทหารได้

2.ยกเว้นไม่เรียกมาเข้ารับการตรวจเลือกในยามปกติ

พระภิกษุสามเณรซึ่งเป็นนักธรรม

2.1 พระภิกษุ สามเณร ซึ่งเป็นนักธรรม หมายถึง ผู้ที่จบนักธรรมตรี นักธรรมโท และนักธรรมเอก เมื่อยื่นเรื่องขอยกเว้นและได้รับการยกเว้นแล้ว ไม่ต้องไปแสดงตนเข้ารับการตรวจเลือกฯ ถ้ายื่นไม่ทันก่อนการตรวจเลือก จะนำหลักฐานไปยื่นขอรับการยกเว้นต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในวันทำการตรวจเลือกก็ได้ หลักฐานที่ต้องนำไปยื่นต่อนายอำเภอเพื่อขอยกเว้น ได้แก่

– ประกาศนียบัตรจบนักธรรม

– ใบสำคัญ(แบบ สด.9)

– หมายเรียก(แบบ สด.35)

– หนังสือรับรองของเจ้าอาวาส

– หนังสือสุทธิ

2.2 ผู้อยู่ในระหว่างการฝึกวิชาทหาร (ยังไม่จบ รด.ปี 3)

การขอยกเว้นให้สถานศึกษาจัดทำบัญชีผู้ซึ่งอยู่ในกำหนดต้องเรียกมาตรวจเลือกฯ ส่งสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และ นรด. ภายในเดือน ต.ค.ของทุกปี หลักฐานเป็นหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมจะแจ้งไปยังจังหวัดภูมิลำเนาทหารของผู้นั้น ให้จัดการยกเว้นให้ แล้วผู้นั้นไม่ต้องไปเข้ารับการตรวจเลือก

2.3 ครูในสถานศึกษา

ครูซึ่งประจำทำการสอนหนังสือหรือวิชาการต่าง ๆ ที่อยู่ในความควบคุมของกระทรวง ทบวง กรม หรือราชการส่วนท้องถิ่น รวมถึงครูอัตราจ้างด้วย แต่ครูไม่ได้รับการยกเว้นทุกคน ครูที่จะมีสิทธิได้รับการยกเว้นจะต้องเข้าลักษณะตามที่กำหนด ดังนี้

เป็นครูประจำทำการสอนนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษา ไม่น้อยกว่า 15 คนเป็นปกติและในจำนวนนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษาไม่น้อยกว่า 15 คนนี้ ยกเว้นครูได้คนเดียว หรือเป็นครูสอนประจำเฉพาะวิชาซึ่งทำการสอนนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษาไม่น้อยกว่า 15 คนเป็นปกติ และในจำนวนนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษาไม่น้อยกว่า 15 คนนี้ ก็ยกเว้นครูได้คนเดียวเช่นกัน

มีเวลาสอนสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมง สำหรับครูซึ่งประจำทำการสอนในสถานศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาลงมา หรือไม่น้อยกว่า 15 ชั่วโมง สำหรับครูซึ่งประจำทำการสอนในสถานศึกษาระดับสูงกว่ามัธยมศึกษา

วิธีการยกเว้นครู

ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ส่งรายชื่อครูซึ่งจะได้รับการยกเว้นไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งครูผู้นั้นทำการสอนอยู่ในท้องที่ก่อนเดือนเมษายนของปีที่ถูกเรียกไม่น้อยกว่าหกสิบวัน เว้นแต่กรณีการย้ายไปประจำทำการสอนในสถานศึกษาอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ในใบสำคัญยกเว้นครู ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องส่งรายชื่อครูที่ย้ายมาประจำทำการสอนซึ่งจะได้รับ

การยกเว้นน้อยกว่า 60 วันได้ แต่ต้องก่อนการตรวจเลือกในจังหวัดที่เป็นภูมิลำเนาทหารของครูผู้นั้น

ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้ออกใบสำคัญ ยกเว้นครูให้แก่ครูซึ่งทำการสอนอยู่ในท้องที่ แล้วแจ้งให้ผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอท้องที่ที่เป็นภูมิลำเนาทหารของครูผู้นั้นทราบ

ถ้าครูผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ในท้องที่จังหวัดอื่น ต้องแจ้งให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งท้องที่ที่เป็นภูมิลำเนาทหารของครูผู้นั้นทราบ แล้วให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับแจ้งแจ้งให้ผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอท้องที่ที่เป็นภูมิลำเนาทหารของครูผู้นั้นทราบอีกต่อหนึ่ง
ทั้งนี้ให้แจ้งต่อกันภายในกำหนด 30 วัน

ผู้ได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ

– เป็นบุคคลที่ได้แปลงสัญชาติเป็นคนไทยตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะทราบว่าเป็นบุคคลประเภทนี้ตั้งแต่ไปแสดงตนขอลงบัญชีทหารกองเกินแล้ว จะจัดการยกเว้นให้ทันทีโดยตัวไม่ต้องขอยกเว้นอีก

– บุคคลซึ่งได้รับโทษจำคุก โดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกครั้งเดียวตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปหรือเคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกหลายครั้งรวมกันตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปหรือเคยถูกศาลพิพากษาให้กักกัน

ข้อมูลอ้างอิง : กองการสัสดี หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน, gcc.go.th