39 ปีที่แล้ว..ผมเริ่มต้นทำงาน กับบริษัทการเงินข้ามชาติ ที่ว่ากันว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก.. 35 ปีที่แล้ว..ผมแต่งงานกับเธอที่ผมรักที่สุด เราต่างสัญญาจะสร้างอนาคตร่วมกันเธอจะเป็นคนข้างหลังเพื่อให้ผมประสบความสำเร็จ ทางการงานตามที่ตั้งใจ..ในขณะที่การงานของผมก้าวหน้าไปมากอย่างรวดเร็ว… 29 ปีที่แล้ว..เธอคลอดลูกชาย คนแรกให้ผม ในขณะที่ผมติดประชุมที่ญี่ปุ่นผมขอโทษเธอ สัญญากับเธอว่าผมขอเวลาทำงาน อีกระยะเพื่อครอบครัว..ผมกลับเมืองไทย รับขวัญลูกและ ขอโทษเธอด้วยตำแหน่งงาน ที่ก้าวหน้ากว่าเดิม..ฝันของเราใกล้เป็นจริง.. 24 ปีที่แล้ว..เธอคลอด ลูกสาวที่เราเฝ้ารอคอย ผมได้เห็นหน้าลูกสาวแค่วันเดียว เพราะต้องเดินทางไปประชุมใหญ่ที่ออสเตรเลีย ผมสัญญาว่าผมจะทำงานอีกไม่นาน จากนั้นเวลาทั้งหมดของผมจะเป็นของ ครอบครัวตลอดไปสมกับที่เธอตั้งตารอคอย.. 13 ปีที่แล้ว..หน้าที่ การงานผม ก้าวหน้าจนก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 2 ในภาคพื้นเอเชียแปซิคฟิค แต่เธอขอ “หย่า” เพื่อเริ่มชีวิตใหม่ที่เธอบอกว่าผมไม่เคยให้เธอ (ผมเถียงว่า ผมให้เธอทุกอย่าง) สุดท้ายเธอบอกว่า“เมียไม่ได้ต้องการแค่ทรัพย์สินเงินทองจนเกินเก็บ หากแต่เป็นความอบอุ่นมั่นใจจากอ้อมกอดคนเป็นสามีเติมเต็มในคืนอ้างว้าง”..สุดท้ายเธอ แยกไป ส่วนลูกๆ ปู่ กับ ย่า จะดูแลอย่างดี เหมือนกับที่เคยเลี้ยงผมมา.. 10 ปีที่แล้ว..ลูกชายคนโต ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์เพื่อนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ผมบินกลับจากญี่ปุ่นทั้งๆ ที่มีงานสัมนาสำคัญ แม่บอกว่า ลูกชายเกเรเลี้ยงยาก..ผมกอดลูกสาวบอกกับเธอว่า พ่อไม่ดีเอง […]