จากกรณี นายเอกภพ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำผู้เสียหายร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพแฮกข้อมูลโทรศัพท์มือถือ โอนเงินออกไปจากบัญชี
ผู้เสียหายรายหนึ่ง เล่าว่า ได้ชาร์จมือถือทิ้งไว้ จู่ ๆ มีข้อความจากธนาคารแจ้งมาว่า มีการโอนเงินจากแอพพลิเคชันธนาคารตนเอง ออกไป 100,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำธุรกรรมอะไรเลย โดยโทรศัพท์ทั้งหมดที่ถูกแฮกนั้น เป็นโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ มีผู้เสียหายมากกว่า 10 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งมีหลายฝ่ายคาดว่าอาจถูกสายชาร์จมือถือ ดูดเงินออกจากแอพพลิเคชันบัญชีนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ว่า จากการตรวจสอบเครื่องโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย พบว่ามีการติดตั้งแอพพลิเคชันหาคู่ของปลอม ชื่อว่า Sweet meet ลงในมือถือ
ซึ่งสอดคล้องกับประวัติการเข้าไปในเว็บไซต์ เพื่อติดตั้งแอพพลิเคชันดังกล่าว จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ถูกดูดเงินออกจากแอพพลิเคชันธนาคาร
ยืนยันว่ากรณีดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับสายชาร์จดูดข้อมูลตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด ล่าสุดได้สั่งการให้ตำรวจเข้าดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว
สายชาร์จที่ทำมาสำหรับดูดข้อมูลนั้นมีจริง แต่ไม่สามารถเข้าถึงแอพพลิเคชันเพื่อดูดเงินออกมาได้ ส่วนใหญ่จะดูดได้เฉพาะข้อมูลพื้นฐานหรือข้อมูล GPS นอกจากนั้นจะเป็นเครื่องมือสำหรับผู้เชี่ยวชาญใช้เฉพาะทางด้านเทคนิคเท่านั้น